บทความทั้งหมด

สุขภาพทางเพศ
❗ “แผลเล็ก ไม่เจ็บ แต่อันตราย! รู้จักแผลริมแข็ง ก่อนซิฟิลิสลุกลาม”
แผลริมแข็งคืออะไร?
สัญญาณแรกของโรคซิฟิลิสที่ไม่ควรมองข้าม
แผลริมแข็ง (ภาษาอังกฤษ: Chancre) คือแผลที่เกิดขึ้นในระยะเริ่มต้นของโรค ซิฟิลิส (Syphilis) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Treponema pallidum
แม้ชื่อ "แผลริมแข็ง" อาจฟังดูไม่น่ากลัว แต่จริงๆ แล้วมันคือ สัญญาณเตือนภัยเงียบ ของโรคที่หากไม่รีบรักษา อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรงในอนาคต
แผลริมแข็งเกิดขึ้นได้อย่างไร?
หลังจากที่ร่างกายสัมผัสกับเชื้อซิฟิลิสผ่านการมีเพศสัมพันธ์ (ทั้งทางช่องทางปกติ ช่องทางขับถ่าย หรือทางปาก) เชื้อจะเข้าสู่ผิวหนังหรือเยื่อบุ และเริ่มฟักตัวในร่างกายประมาณ 10–90 วัน (โดยเฉลี่ยคือ 3 สัปดาห์)
หลังจากนั้นร่างกายจะเริ่มแสดงอาการแผลที่เรียกว่า แผลริมแข็ง ซึ่งเป็นอาการใน "ระยะแรก" (Primary stage) ของโรค
ลักษณะของแผลริมแข็งเป็นอย่างไร?
ลักษณะที่สังเกตได้ชัดเจนของแผลริมแข็ง ได้แก่:
- 🔘 แผลมักมีเพียง 1 ตำแหน่ง แต่ในบางรายอาจมีหลายแผล
- 📍 ขนาดเล็กแต่ขอบนูน ผิวเรียบ ขอบแผลชัดเจน
- ❌ ไม่มีอาการปวด หรือเจ็บแสบใดๆ
- ❌ ไม่มีหนอง หรือสารคัดหลั่ง
- 📌 คลำดูขอบจะแข็ง จึงเรียกว่า “แผลริมแข็ง”
- 🧍♀️ พบได้ทั้งในเพศชายและหญิง บริเวณที่พบบ่อย เช่น:
- อวัยวะเพศ (ปลายองคชาต แคมใหญ่ แคมเล็ก)
- ทวารหนัก
- ปาก ริมฝีปาก ลิ้น (หากมีการใช้ปากขณะมีเพศสัมพันธ์
ต่อมน้ำเหลืองโต: อีกหนึ่งสัญญาณร่วม
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีแผลริมแข็งมักมี ต่อมน้ำเหลืองโตใกล้บริเวณแผล โดยต่อมน้ำเหลืองนั้นจะโตขึ้นช้าๆ ไม่เจ็บ ไม่มีอาการอักเสบ หรือแดงร้อน เช่น
- ถ้าแผลอยู่ที่อวัยวะเพศ → มักพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
- ถ้าแผลอยู่ในปาก → มักพบทอนซิลหรือใต้คางบวม
แผลหายได้เอง จริงหรือ?
ใช่! แผลริมแข็งมัก หายได้เองภายใน 3–6 สัปดาห์ โดยไม่ต้องรักษา
แต่นั่นคือกับดักอันตรายของโรคนี้ เพราะ...
🔴 แม้แผลจะหาย แต่เชื้อซิฟิลิสยังคงอยู่ในร่างกาย!
หากปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษา เชื้อจะลุกลามเข้าสู่ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ซึ่งรุนแรงมากขึ้น
หากปล่อยไว้ โรคจะลุกลามเป็นอย่างไร?
หลังจากแผลริมแข็งหาย เชื้อจะเข้าสู่:
📍 ระยะที่ 2 (Secondary syphilis):
- มีผื่นขึ้นทั่วตัว ฝ่ามือฝ่าเท้า
- มีไข้ เจ็บคอ ผมร่วงเป็นหย่อม
- แผลเปื่อยในปากหรือทวารหนัก
- ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วตัว
📍 ระยะแฝง (Latent syphilis):
- ไม่มีอาการแสดง แต่เชื้อยังอยู่ในร่างกาย
📍 ระยะที่ 3 (Tertiary syphilis):
- เกิดความเสียหายต่ออวัยวะภายใน เช่น สมอง หัวใจ กระดูก
- เสี่ยงต่อภาวะเสียชีวิต
วินิจฉัยโรคอย่างไร?
การตรวจวินิจฉัยที่ใช้กันบ่อย ได้แก่:
- 🩸 ตรวจเลือด: เช่น VDRL, RPR, TPHA, FTA-ABS
- 🔬 การขูดเซลล์จากแผลตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
- 🧑⚕️ ซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การรักษาซิฟิลิสระยะที่ 1
- 💉 ยาฉีดเพนิซิลลิน (Penicillin G) คือแนวทางการรักษาหลัก
- ในผู้ที่แพ้เพนิซิลลิน อาจใช้ยาชนิดอื่น เช่น doxycycline (ตามดุลยพินิจของแพทย์)
- ✅ การรักษาเพียงครั้งเดียวสามารถกำจัดเชื้อได้ หากอยู่ในระยะแรก
- 🚫 ห้ามมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะรักษาหายขาด และตรวจยืนยันผลซ้ำ
- 🔁 ต้องพาคู่นอนมารักษาด้วยเพื่อป้องกันการติดซ้ำ
ป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดแผลริมแข็ง?
- ✅ ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- ✅ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ✅ ตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากมีพฤติกรรมเสี่ยง
- ✅ หลีกเลี่ยงการใช้ปากโดยไม่มีการป้องกัน
- ✅ หากเคยเป็นแล้ว ต้องติดตามอาการและตรวจซ้ำตามคำแนะนำแพทย์
สรุป: แผลไม่เจ็บ อาจเป็นแผลอันตราย
อย่าคิดว่าแผลที่ไม่เจ็บจะไม่เป็นไร! เพราะ แผลริมแข็งคือสัญญาณเตือนล่วงหน้า ของโรคซิฟิลิสที่อาจลุกลามจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีแผลลักษณะผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และเริ่มการรักษาโดยเร็วที่สุด
การตรวจเร็ว รักษาทัน ช่วยหยุดโรคไม่ให้ลุกลาม